สรุป:ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 99.959 หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจมีน้อยลง
นำดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดความแข็งแกร่งของดอลลาร์เทียบกับตะกร้าเงิน 6 สกุล เพิ่มขึ้น 0.18% เป็น 99.959 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 หลังจากที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดไปอยู่ที่ 99.578 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใน 15 เดือน หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่ต่ำกว่าคาด
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายนเปิดเผยว่ามีการเพิ่มขึ้นเพียง 3.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% นอกจากนี้ CPI หลัก ซึ่งไม่รวมหมวดหมู่ที่มีความผันผวนสูง เช่น อาหารและพลังงาน ลดลง 0.5% จาก 4.8% ในเดือนพฤษภาคมเหลือ 4.3% ในเวลาเดียวกัน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักวิเคราะห์ตลาดเชื่อว่าผลลัพธ์เหล่านี้อาจนำไปสู่การหยุดชะงักในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะหลังการประชุมคณะกรรมการตลาดเปิดเฟด (FOMC) ที่มีกำหนดในวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ ความคาดหวังในตอนนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่อัตราเงินกองทุนเฟดที่คงที่ในระดับ 5.25% ถึง 5.50% ตลอดปี 2023
“ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดชี้ให้เห็นว่าเฟดอาจจะระงับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของดอลลาร์” นักวิเคราะห์ตลาดจาก FXStreet กล่าว
จากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ลดลงเหลือประมาณ 4.772% ในขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงไปอยู่ที่ 3.834% การลดลงเหล่านี้สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดที่ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยลดลง 2.26% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงได้ให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยนักเทรดหลายคนคาดการณ์ว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไปอาจไม่จำเป็น เนื่องจากแนวโน้มราคาผู้บริโภคในปัจจุบัน
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของดัชนี DXY ชี้ให้เห็นว่ามีแนวรับทันทีที่ระดับต่ำสุดรายวันของวันที่ 14 เมษายน 2022 ที่ 99.571 หากระดับนี้ถูกทำลาย อาจส่งสัญญาณถึงการลดลงต่อไปสู่ระดับต่ำสุดของวันที่ 30 มีนาคม 2022 ที่ 97.685 และในที่สุดอาจเข้าใกล้ระดับต่ำสุดของปีที่ 96.938 ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2021
จากมุมมองทางเทคนิค การลดลงของ DXY ต่ำกว่าระดับต่ำสุดรายวันเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ 100.820 ได้เปิดทางสู่การลดลงเพิ่มเติม ความต้านทานทันทีสำหรับดัชนียังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งตอนนี้ตั้งอยู่เป็นอุปสรรคสำคัญที่ 100.820 หาก DXY สามารถฟื้นตัวได้ มันอาจจะทดสอบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เลขชี้กำลัง 20 วัน (EMA) ที่ 102.037 ซึ่งจะบ่งบอกถึงความรู้สึกรุนแรงของดอลลาร์หากสามารถกู้คืนเส้นนี้ได้
ด้วยการพัฒนาของภาวะเงินเฟ้อล่าสุด ยังคงไม่แน่นอนว่าดัชนี DXY จะรวมตัวกันเหนือระดับที่สำคัญท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตที่ลดลง
ข้อมูลเงินเฟ้อสะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจมหภาคที่กว้างขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ค้าปรับเปลี่ยนความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด การเย็นตัวลงอย่างไม่คาดคิดนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดต่อตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะของ USD เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
ในปัจจุบัน ความคาดหวังเกี่ยวกับชะตากรรมของดอลลาร์สหรัฐสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มเงินเฟ้อภายในประเทศ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบจากภาษีศุลกากรตามนโยบายการค้า ผู้เข้าร่วมตลาดยังคงระมัดระวัง เนื่องจากคำตัดสินใจที่ไม่คาดคิดจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจพลิกผันพลวัตราคาในตลาดสกุลเงินในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ด้วยความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภาษีศุลกากร ทัศนียภาพระยะสั้นของดอลลาร์สหรัฐในตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของตลาดที่เกิดจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไว้ในนโยบายการเงินจากเฟด
ในขณะที่ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจยังคงพัฒนาต่อไป ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและนักลงทุนจะต้องติดตามปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขเงินเฟ้อและการตอบสนองจากเฟดอย่างใกล้ชิด สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของตลาดฟอเร็กซ์
โดยสรุป ดัชนีดอลลาร์สหรัฐสามารถฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัว ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ในกลยุทธ์ของตลาด ในขณะที่แนวทางการเงินของ Federal Reserve กำลังถูกจับตามองมากขึ้น ความคาดหวังต่อนโยบายต่อไปจะยังคงกำหนดทิศทางของดอลลาร์ในอนาคตท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
ในขณะที่ตลาดเตรียมพร้อมสำหรับการประชุม FOMC ที่จะมาถึงและทำความเข้าใจผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ นักลงทุนควรเตรียมพร้อมและติดตามข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ ในสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด