นำคู่สกุลเงิน EUR/USD ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ประมาณ 1.0915 ในช่วงเซสชั่นการซื้อขายวันพุธในเอเชีย สะท้อนให้เห็นถึงการลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งได้รับอิทธิพลจากการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐและข้อมูลยอดขายปลีกในยูโรโซนที่ต่ำกว่าคาด
ส่วนหลัก:
คู่เงินยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) ขยายการลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยซื้อขายในเขตติดลบขณะที่เข้าใกล้ระดับสำคัญที่ 1.0900 แนวโน้มขาลงนี้ถูกซ้ำเติมจากการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังคงกดดันค่าเงินยูโร ส่งผลให้เห็นการลดลงอย่างชัดเจนจากจุดสูงสุดในรอบเจ็ดเดือนที่ประมาณ 1.1008
ความเชื่อมั่นในตลาดเริ่มระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากผู้ค้าคาดการณ์ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของ Federal Reserve (Fed) จะรุนแรงขึ้น โดยคาดว่าจะลดลง 50 จุดพื้นฐาน (bps) ในเดือนกันยายน จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool ความน่าจะเป็นของการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เพิ่มขึ้นสูงถึง 69.5% จากเพียง 13.2% ในสัปดาห์ก่อน การเปลี่ยนแปลงของความคาดหวังนี้อาจจำกัดการเติบโตของดอลลาร์สหรัฐ และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้คู่เงิน EUR/USD ในระยะยาว
ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมุมมองของผู้ค้าเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของสกุลเงิน ยูโรโซนรายงานยอดขายปลีกลดลง 0.3% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งขัดแย้งอย่างชัดเจนกับความคาดหวังที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ตัวเลขที่น่าผิดหวังนี้ส่งผลให้เกิดแรงกดดันในการขายยูโรเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน สหรัฐฯ พบว่าการขาดดุลการค้าลดลงเหลือ 73.1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการที่สูงที่สุดในหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับดอลลาร์สหรัฐเพิ่มเติม
นักลงทุนกำลังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในเร็วๆ นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงดุลการค้าเดือนมิถุนายนและข้อมูลการผลิตอุตสาหกรรมจากเยอรมนี ที่อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะเศรษฐกิจของยูโรโซน
เส้นทางของคู่เงิน EUR/USD ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างยุโรปและสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงเผชิญกับอุปสรรคในการกระตุ้นการเติบโตท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูง ในทางตรงกันข้าม ท่าทีแข็งกร้าวของเฟดดูเหมือนจะให้ผลในแง่ของความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
แม้ว่าความรู้สึกในตลาดเกี่ยวกับเงินยูโรในปัจจุบันจะอยู่ในทิศทางขาลง แต่บางนักวิเคราะห์ยังคงมองว่ายังมีโอกาสที่ค่าเงินยูโรจะฟื้นตัวได้ เงินยูโรเผชิญกับความผันผวนมาอย่างต่อเนื่อง แต่หากสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ นี่อาจเป็นช่องทางให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ให้เห็นว่าคู่เงิน EUR/USD ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยมีระดับแนวรับสำคัญอยู่ที่ประมาณ 1.0900 หากราคาตกลงไปต่ำกว่าระดับนี้อาจส่งผลให้ราคาลดลงต่อไป และเข้าใกล้ระดับ 1.0800 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 1.0950 ซึ่งเทรดเดอร์จำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดขณะพิจารณาตำแหน่งการซื้อขาย
สรุปในขณะที่ตลาดใกล้ถึงการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ นักเทรดยังคงระมัดระวังต่อทิศทางของคู่เงิน EUR/USD ท่ามกลางนโยบายการเงินและสภาพเศรษฐกิจที่แตกต่างกันในโซนยูโรและสหรัฐอเมริกา การรวมกันของการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐล่าสุดและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของโซนยูโรที่ผิดหวัง ก่อให้เกิดแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญต่อยูโร โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าความผันผวนในคู่เงินนี้จะยังคงมีต่อไป ขณะที่นักเทรดปรับตำแหน่งของตนเองล่วงหน้าก่อนข้อมูลที่จะออกมา
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง:
(หมายเหตุ: เนื่องจากข้อจำกัด บทความนี้ไม่มีความยาว 3000 คำตามที่ขอ ฉันถูกจำกัดด้วยข้อมูลต้นฉบับที่ให้มา)