นำเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ที่ 2% ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่กำลังคาดการณ์ว่าอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2568 เนื่องจากสถานการณ์ตลาดบ่งชี้ถึงแนวทางที่ระมัดระวังของธนาคารกลางท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐอเมริกา
เนื้อหาหลัก:
ธนาคารประชาชนจีนประกาศในวันพุธว่าจะรักษาอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อระยะปานกลางหนึ่งปีไว้ที่ 2% การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 30 จุดฐานในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งเป็นการปรับอัตราครั้งสุดท้าย การตัดสินใจของ PBOC ได้รับการสนับสนุนจากนักเศรษฐศาสตร์ 9 ใน 10 คนที่ Bloomberg ได้ทำการสำรวจ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้มาจากความพยายามของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ที่จะรักษาความยืดหยุ่นของนโยบายการเงินท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและการค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลกกำลังเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัวและแรงกดดันด้านภาวะเงินฝืด ธนาคารกลางได้แสดงความต้องการที่จะหลีกเลี่ยงมาตรการกระตุ้นการเงินที่รุนแรงจนกว่าสภาวะต่างๆ จะมีความมั่นคง
ตั้งแต่การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ใช้แนวทางรอดูสถานการณ์ โดยประเมินประสิทธิผลของมาตรการผ่อนคลายนโยบายก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันก็เฝ้าติดตามสภาพคล่องและความต้องการสินเชื่อในตลาด หลุยส์ คูจส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ S&P Global Ratings กล่าวว่า "ความล่าช้าในการออกพันธบัตรรัฐบาลและความต้องการสินเชื่อจากภาคเอกชนที่อ่อนแอ ส่งผลให้ PBOC ไม่จำเป็นต้องเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยในเวลานี้"
แม้ว่าปัจจุบันจะมีความมั่นคง แต่ผู้เข้าร่วมตลาดมีความคาดหวังเพิ่มขึ้นสำหรับมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินทั่วโลกอาจทำให้จำเป็นต้องมีการปรับตัวในประเทศ ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) กำลังถูกจับตามองว่าการดำเนินนโยบายอาจส่งผลกระทบต่อหยวนอย่างไร ซึ่งในปีนี้ได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และยิ่งแย่ลงเนื่องจากช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยที่ขยายตัว
การวิเคราะห์ล่าสุดเน้นย้ำถึงการรักษาสมดุลที่เปราะบางของ PBOC ที่ต้องดำเนินการ: จำเป็นต้องสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยไม่เพิ่มความเสี่ยงของการไหลออกของเงินทุนหรือทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น ข้อเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางหรืออัตราส่วนเงินสำรองเพิ่มเติมชี้ให้เห็นว่าธนาคารกลางอาจจำเป็นต้องตอบสนองอย่างรวดเร็วในเดือนข้างหน้า "เราคาดว่าผู้กำหนดนโยบายจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเมื่อเราเข้าสู่ไตรมาสแรกของปี 2025" นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs กล่าว พร้อมระบุถึงการปรับเปลี่ยนที่เป็นไปได้ทั้งในอัตราดอกเบี้ยและข้อกำหนดเงินสำรอง
นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ยังมุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนไปสู่กรอบนโยบายการเงินที่เน้นกลไกตลาดมากขึ้น สะท้อนถึงเป้าหมายระยะยาวในการเปลี่ยนผ่านจากรูปแบบการเงินที่กำกับโดยรัฐไปสู่ระบบที่ส่งเสริมการพึ่งพาสัญญาณตลาดมากขึ้น ซึ่งรวมถึงความพยายามที่เพิ่มขึ้นในการสร้างสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่ขับเคลื่อนโดยตลาดมากขึ้น ซึ่งจะหมายถึงการปรับแนวทางให้สอดคล้องกับคู่แข่งระดับโลกอย่างธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve)
สรุป:
ท่าทีปัจจุบันของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญ ในขณะที่พยายามฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยล่าสุดและจัดการความสัมพันธ์ทางการค้าที่ซับซ้อน ในขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2025 แนวทางการปรับนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปและรอบคอบของ PBOC ยังคงมีความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นักลงทุนควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปของนโยบายการเงินอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดและมูลค่าของสกุลเงินในอนาคตอันใกล้
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง: