นำตลาดหุ้นออสเตรเลียแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นการสานต่อแนวโน้มขาขึ้นจากช่วงก่อนหน้า โดยดัชนี S&P/ASX 200 ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดหลัก เพิ่มขึ้นเป็น 6,808.20 จุด จากการส่งสัญญาณเชิงบวกจากตลาดโลก แม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อในประเทศที่รายงานโดยสำนักงานสถิติออสเตรเลียจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
เนื้อหาหลัก:
ตลาดหุ้นออสเตรเลียบันทึกกำไรเล็กน้อยในวันพุธ โดยดัชนี S&P/ASX 200 เพิ่มขึ้น 9.60 จุด หรือ 0.14% เป็น 6,808.20 ซึ่งเป็นการต่อยอดโมเมนตัมขาขึ้นที่สังเกตได้ในเซสชั่นก่อนหน้านี้ ที่ดัชนีเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 6,843.20 จุด เช่นเดียวกัน ดัชนี All Ordinaries ที่กว้างขึ้นก็เพิ่มขึ้น 9.40 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 7,003.10 พฤติกรรมตลาดในแง่บวกนี้เกิดขึ้นหลังจากได้รับสัญญาณที่ดีจากตลาดต่างประเทศ โดยมีตัวเลขที่รายงานใหม่แสดงให้เห็นการลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีหุ้นจะมีแนวโน้มที่ดี แต่ผู้ค้ายังคงระมัดระวังเนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ที่เผยแพร่สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติออสเตรเลีย ราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้น 7.3% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาสที่ 3 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดไว้ที่ 7.0% และเพิ่มขึ้นจาก 6.1% ในไตรมาสก่อนหน้า เมื่อปรับตามฤดูกาลในระดับรายไตรมาส เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.8% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่ 2 แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6%
ในกลุ่มอุตสาหกรรม บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ประสบความสำเร็จแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง OZ Minerals รายงานกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในขณะที่ Mineral Resources เพิ่มขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ Rio Tinto และ BHP Group มีกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยระหว่าง 0.1 ถึง 0.3% ในขณะที่ Fortescue Metals ลดลงเล็กน้อยที่ 0.2%
ภาคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแสดงผลลัพธ์ที่หลากหลาย โดย Beach Energy เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในขณะที่ Woodside Energy เพิ่มขึ้น 0.3% ในทางตรงกันข้าม Santos ลดลงเล็กน้อย 0.3% และ Origin Energy คงที่
ภาคเทคโนโลยีมีการเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยบริษัทแม่ของ Afterpay อย่าง Block และ Appen มีการเพิ่มขึ้นระหว่าง 0.2 ถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์แต่ละบริษัท ในขณะที่ Zip และ Xero เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์แต่ละบริษัท แม้ว่า Wisetech Global จะลดลงเล็กน้อยที่ 0.2 เปอร์เซ็นต์
ภาคการบริการทางการเงินในกลุ่มธนาคารใหญ่ทั้งสี่แห่งก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยธนาคาร National Australia Bank, Commonwealth Bank และ ANZ Banking มีกำไรเพิ่มขึ้น 0.3 ถึง 0.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ Westpac บันทึกกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์
ในภาคการทำเหมืองทองคำ Evolution Mining และ Northern Star Resources มีการเพิ่มขึ้นทั้งคู่มากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ พร้อมด้วย Resolute Mining และ Newcrest Mining ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลเงินเฟ้อมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงิน และเมื่อเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ก็เผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการปรับอัตราดอกเบี้ย ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา RBA ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในวงการค้าระหว่างประเทศ ผลการดำเนินงานของวอลล์สตรีทเมื่อวันอังคารยังส่งผลต่อความรู้สึกของนักลงทุนในออสเตรเลีย ตลาดสหรัฐฯ มีการฟื้นตัว โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 337.12 จุด (1.1 เปอร์เซ็นต์) ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 61.77 จุด (1.6 เปอร์เซ็นต์) และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 246.50 จุด (2.3 เปอร์เซ็นต์) สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุน
ตลาดยุโรปสะท้อนการเพิ่มขึ้นนี้ โดยดัชนี DAX ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.9% และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสพุ่งขึ้นอย่างน่าจดจำที่ 1.9% นักวิเคราะห์ตลาดให้เหตุผลถึงความเชื่อมั่นนี้มาจากความหวังเกี่ยวกับความต้องการพลังงานและความกังวลด้านอุปทาน เนื่องจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์หลายอย่างยังคงเกิดขึ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดจากออสเตรเลียได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ เมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคจำนวนมากรายงานว่าต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายประจำวันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาสินค้าประเภทอาหารและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาและช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากภาระที่เพิ่มขึ้นนี้
ด้วยค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีมูลค่า 0.639 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันพุธ นักเทรดฟอเร็กซ์ได้ระบุถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน เนื่องจากความเชื่อมั่นของตลาดเปลี่ยนไปตามการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
สรุป:
โดยรวมแล้ว ตลาดออสเตรเลียยังคงเฟื่องฟู โดยได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มทั่วโลก แม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อที่รายงานในประเทศจะทำให้เกิดความกังวล นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะติดตามทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและผลกระทบต่อตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในสัปดาห์ต่อๆ ไป นักวิเคราะห์คาดการณ์ความผันผวนในตลาดการเงินในอนาคต เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลีย พยายามสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อกับมาตรการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
แหล่งที่มา: